วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หลากหลาย....เรียนรู้..... จากการดูงาน

ยุคแห่งการปฏิรูปการศึกษาในรอบที่ 2 นี้นับว่า เป็นปัจจัยที่จะส่งผลให้คณะครูของเรามีความกระตือรือร้นในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การพัฒนาหลักสูตร กรพัฒนาวิชาชีพให้กับตนเองพร้อมทั้งมาตรฐานและคุณภาพของผู้เรียนนั้นสำคัญที่สุด
การศึกษาดูงานที่ผ่านมาฝ่ายวิชาการของโรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) มุ่งสนับสนุนและส่งเสริมคณะครูให้มีความรู้ ค้นคว้าข้อมูลที่จะนำมาซึ่งการพัฒนาผู้เรียนนำแบบอย่างที่บูรณาการกับบริบทของสถานศึกษาและความเป็นตัวตนของตนเองจัดกิจกรรมให้กับผู้เรียนนำมาซึ่งการพัฒนาสถานศึกษาโดยภาพรวมเช่นกัน
การศึกษาดูงานในโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2552 จัดโดยโรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) เป็นส่วนหนึ่งที่นำความรู้มาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในเรื่องของความพอเพียงและแนวคิดต่างๆ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางคณะครูมีความอบอุ่นในการต้อนรับจากข้าราชการในสำนักพระราชวังและในโครงการอย่างดีมากเป็นที่ประทับใจของคณะครูเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่เราได้นำมาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนคือ
นำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาจัดกิจกรรมบูรณาการในหน่วยการเรียนรู้ ตามหลักสูตรสถานศึกษาพุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนในทุกกลุ่มสาระ
การศึกษาดูงานการจัดการศึกษาในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายน 2552 (ร.ร.บ้านห้วยไร่สามัคคี/ร.ร.บ้านขาแหย่ง/ร.ร.อนุบาลแม่ฟ้าหลวง อ. แม่ฟ้าหลวง จ. เชียงใหม่)
คณะครูระดับปฐมวัยถือเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอนในระดับปฐมวัย ทางโรงเรียนได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มีโอกาสนี้โดยหนังสือศึกษานิเทศก์ สำนักการศึกษาเมืองพัทยา ดูงานในโครงการพระราชดำริ ดอยตุง ในด้านการจัดการศึกษา โดยเฉพาะการจัดทำแผนการจัดกิจกรรมบูรณาการที่มีการกำหนดสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งการจัดทำแผนการจัดแบBackward Design และการจัดหลักสูตรสถานศึกษาตามความต้องการของผู้เรียนและท้องถิ่นอย่างชัดเจน ตามบริบทของดอยตุง โดยมีนักเรียนเป็นชาวเขาเผ่าต่างๆ ก็สามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างกลมกลืน พร้อมทั้งนักเรียนมีความรู้ความสามารถในด้านงานอาชีพสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งจัดกิจกรรมแสดงผลงานและนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

การศึกษาดูงานของคณะผู้บริหารและคณะครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน นับว่าเป็นความรู้และประสบการณ์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการศึกษาด้านความเป็นอยู่ศิลปวัฒนธรรมในแถบลุ่มแม่น้ำโขงที่ได้รับประสบการณ์ตรงสามารถนำมาปรับใช้ในการจัดกิจกรรมเช่น การแสดงและวิถีชีวิตที่จะเผยแพร่ให้กับเพื่อนครูและนักเรียนได้เป็นอย่างดี
นับว่าการศึกษาดูงานถ้ามองลึกถึงแก่นแท้ของวัตถุประสงค์แล้วอะไรเทียบเท่ากับการมีประสบการณ์ตรงนั้นคงไม่มีอีกแล้ว ผู้เขียนคิดว่าประสบการณ์คือสิ่งที่มีค่าที่สุดที่จะนำมาพัฒนาตนเองให้เกิดสิ่งที่ดีต่อสถานศึกษา ผู้เรียน เพราะฉะนั้นจึงฝากข้อคิดแด่เพื่อนครูทุกท่านว่าประสบการณ์จากการศึกษาดูงานที่เราได้รับโอกาสนี้มีประโยชน์ยิ่งนัก....ขอขอบคุณสำนักการศึกษาเมืองพัทยาและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่เห็นความสำคัญและมอบสิ่งนี้เป็นของขวัญและกำลังใจให้กับคุณครูของเรา




การศึกษาดูงานมหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่นครั้งที่ 2 เมืองทองธานี วันที่ 23 สิงหาคม 2552 คณะครูได้มีประสบการณ์เห็นความก้าวหน้าด้านผลงานและคุณภาพที่ได้มาตรฐานของผู้เรียนในหน่วยงานเดียวกันที่ตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่งนำแนวทางมาพัฒนาตนเองและผู้เรียนให้ทันต่อการพัฒนาการศึกษาที่ก้าวไกลของหน่วยงานองค์กรปกครองท้องถิ่นของเราสิ่งที่น่าสนใจคือการสร้างองค์ความรู้ของผู้เรียน ผลงานของผู้เรียน ความสามารถในการแสดงกิจกรรมศิลปวัฒนธรรมประเพณีของแต่ละภาค

ฝ่ายวิชาการ
โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์)

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การแก้โจทย์ปัญหาบทประยุกต์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ชื่อเรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาบทประยุกต์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ผู้รายงาน นายนพดล เกตุมา












บทคัดย่อ

รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างชุดฝึกเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาบทประยุกต์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการแก้โจทย์ปัญหาบทประยุกต์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างวิธีสอนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์กับวิธีสอนตามปกติกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) ปีการศึกษา 2551 จำนวน 2 ห้อง ห้องละ 45 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยวิธีจับฉลาก จากนั้นจับฉลากอีกครั้งเพื่อแบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย ชุดฝึกเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาบทประยุกต์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จำนวน 6 ชุด และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาบทประยุกต์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ชนิดปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย อยู่ระหว่าง .44-.81 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ .20 ขึ้นไป ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบเท่ากับ .87 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test (Paired-Samples T-test)
ผลการศึกษา พบว่า
1. ชุดฝึกเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาบทประยุกต์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80
2. นักเรียนที่เรียนด้วยวิธีสอนโดยใช้ชุดฝึกเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาบทประยุกต์มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์สูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วย
วิธีสอนตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

รายงานการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวเยาวรัตน์ รัตนเหลี่ยม











บทคัดย่อ

การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/ 80 รวมถึงศึกษาความก้าวหน้าทางการเรียนของนักเรียนหลังการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และหาระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 1 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) สังกัดสำนักการศึกษาเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2551 จํานวน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย โดยวิธีจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าประกอบด้วย 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย 2) แบบทดสอบในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ย่อย 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติพื้นฐาน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 83.19/ 83.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/ 80 และนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนมีความพึงพอใจต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก

การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ท้องถิ่นของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อเรื่อง การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ท้องถิ่นของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้ศึกษา นางสาววรีพร จั่นเพ็ชร์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์)
ปีการศึกษา 2551




บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ท้องถิ่นของเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/ 80 เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้โปรแกรม E-BOOK อัจฉริยะ Flip Album Vista Pro โดยให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ให้นักเรียนเรียนจากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ โดยให้นักเรียนใช้คอมพิวเตอร์ หลังจากเรียนจบแล้ว ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้คือ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 3 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) สังกัดสำนักการศึกษาเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2551 ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบง่าย (simple random sampling) โดยวิธีจับฉลาก จํานวน 40 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าเฉลี่ย
ผลของการศึกษาพบว่า บทเรียนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ 85.37/ 86.75 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/ 80 ที่ตั้งไว้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยบทเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05 นอกจากนี้แล้วจากการวิเคราะห์ความคิดเห็นของผู้ใช้บทเรียนอยู่ในระดับพอใจมากที่สุด ( = 4.52) สรุปได้ว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ท้องถิ่นของเรา ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นโดยใช้โปรแกรม E-BOOK อัจฉริยะ(Flip Album Vista Pro) สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้ประกอบการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมได้